เรื่อง การเขียนแผนการตลาดแบบมืออาชีพ
ผศ.ดร.วิชิต อู่อ้น
คณบดีวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
สวัสดีครับท่านผู้อ่านวันนี้ผมจะแนะนำวิธีการเขียนแผนการตลาดแบบมืออาชีพกันนะครับ ก่อนอื่นในการเขียนแผนการตลาดที่ดี ผู้วางแผนควรต้องคำถึงถึงความสอดคล้องกับแผนอื่น ๆ ของธุรกิจก่อน ไม่ว่าจะเป็นแผนการเงิน แผนการผลิต หรือแผนในการบริหารจัดการ นะครับ ในการวางแผนการตลาดก่อนอื่นนักการตลาดต้องทำความรู้จักลูกค้าให้ดีก่อน ทั้งที่เป็นลูกค้าเก่าในการรักษาไว้และลูกค้าใหม่ที่ต้องหาเพิ่มเติม อีกทั้งอย่าลืมสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่เหนือคู่แข่งขันด้วนนะครับ
การเริ่มต้นการเขียนแผนการตลาดควรเริ่มต้นด้วยการเขียนบทสรุปสำหรับผู้บริหารก่อนเพื่อสร้างเป็นกรอบแนวคิดหรือแนวทางในการเขียนแผนการตลาด แต่เมือเขียนแผนการตลาดฉบับสมบูรณ์แล้ว อย่าลืมกลับมาทบทวน เพิ่มเติม จุดสำคัญ ๆ ในบทสรุปสำหรับผู้บริหารนะครับ หรือที่เราเรียกว่า เป็นส่วนที่ก่อนอันดับแรก แต่เป็นส่วนที่เสร็จสุดท้ายนั้นเองครับ
ขั้นตอนที่2 ในการวางแผนการตลาดแบบมืออาชีพ นักการตลาดต้องนำแผนในภาพรวมมาวิเคราะห์ก่อนที่จะวางแผนการตลาดนะครับเพื่อที่จะให้เกิดความสอดคล้องกับแผนอื่น ๆ เช่นหากในแผนธุรกิจในภาพรวมเน้นการทำธุรกิจแบบ Premium Class นักการตลาดก็ควรกำหนดแผนการตลาดเช่นในส่วนของสินค้าและบริการสำหรับลูกค้ากุ่มนี้ด้วยเพื่อความสอดคล้องกับแผนในภาพรวมนั้นเอง
ขั้นตอนที่ 3 เราเรียกว่าขั้นตอนในการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาด โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์เราเรียกว่า SWOT Analysis นั้นเอง เครื่องมือนี้จะทำให้นักการตลาดทราบถึงศักยภาพในการวางแผนทางการตลาดได้ดี ในการวิเคราะห์จะแยกออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ๆ คือ การวิเคราะห์ปัจจัยภายในทางการตลาด และปัจจัยภายนอกทางการตลาด
ปัจจัยภายในทางการตลาด เป็นปัจจัยที่นักการตลาดสามารถควบคุมได้ ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ส่วนประสมทางการตลาดที่นักการตลาดสร้างขึ้นมานั้นเอง โดยในการวิเคราะห์ปัจจัยภายในนี้หากการดำเนินการในกิจกรรมทางการตลาดเหล่านี้ส่งผลดีต่อการดำเนินงานเราเรียกว่า จุดแข็ง แต่หากไม่ดีเราจะเรียกว่าจุดอ่อนนั้นเอง
ส่วนปัจจัยภายนอกทางการตลาด นักการตลาดสามารถนำเอา PEST Analysis มาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อหาโอกาสและอุปสรรคให้กับธุรกิจได้ โดย P-เป็นการวิเคราะห์กฎหมาย การเมืองE-เศรษฐกิจ S-สังคม และ T-เทคโนโลยี่ นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้แล้วอย่าลืมปัจจัยภายนอกที่สำคัญทางการตลาดอีก 3 ปัจจัยนะครับ ซึ่งก็ได้แก่ ลูกค้า คู่แข่งขัน และ Supplier ด้วยนะครับ
ขั้นตอนที่ 4 เป็นขั้นตอนในการกำหนดแนวทางการตลาด โดยผ่านการกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ และเป้าหมาย ทางการตลาด การกำหนดแนวทางทางการตลาดต้อง SMART ครับ โดย S-Specific ต้องเฉพาะเจาะจง M-Measurable ต้องสามารถวัดและตรวจสอบได้ A-Achievable ต้องบรรลุความสำเร็จได้ R-Realistic ต้องมีความเป็นไปได้ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่ T – Time ต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
ขั้นตอนที่ 5 เป็นการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด ในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น นักการตลาดต้องทำการวิเคราะห์ก่อนว่าตอนนี้ลูกค้าเราคือใคร เราควรแบ่งลูกค้าในตลาดแบบไหน โดยในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีนั้น จะยึดหลัก 3’C คือ C-Customer ลูกค้า C-Competitors คู่แข่งขัน และ C-Company ความสามารถของบริษัท โดยต้องใช้กลยุทธ์ในการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็น การสร้างความแตกต่าง ต้นทุนต่ำ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นต้น
ขั้นตอนที่ 6 การกำหนดยุทธวิธีทางการตลาด ในขั้นตอนนี้นักการตลาดจะนำเครื่องมือทางการมาใช้ให้ตรงกับความจ้องการของลูกค้าตามที่เรากำหนดกลุ่มลูกค้าในตลาดเป้าหมายนั้นเอง โดยเครื่องมือที่ใช้หากเป็นการตลาดสินค้าเราจะนึกถึง 4’P ได้แก่ P-Product ก็คือผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอลูกค้า P-Price เป็นมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้า P-Place เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายและการกระจายสินค้ารวมถึงสถานที่ในการขายสินค้า P-Promotion เป็นวิธีการเข้าถึงลูกค้าโดยผ่านวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย การขายโดยพนักงานขายหรือตลาดแบบตรง
และหากเป็นตลาดบริการเราจะใช้ 7’P โดยที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ P-People พนักงานในการให้บริการ P-Process กระบวนการในการให้บริการ และ P-Physical evidence บรรยากาศในการให้บริการ
ขั้นตอนที่ 7 การปฏิบัติการทางการตลาด โดยในขั้นตอนนี้นักการตลาดต้องใช้แผนการในการปฏิบัติการผ่าน โครงการ เป้าหมาย ระยะเวลาในการดำเนินการ งบประมาณและการประเมินผล โดยนักการตลาดต้องมีการตวจสอบและประเมินผลทางการตลาดอย่างต่อเนื่องนะครับเพื่อทำให้การวางแผนการตลาดประสบความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น